กะตังกะติ้ว[]
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Willughbeia edulis Roxb.
ชื่อสามัญ : -
ชื่ออื่นๆ : คุยหนัง(ระยอง) คุยช้าง(ปราจีนบุรี)
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ลักษณะทั่วไป
- ต้น : เป็นพรรณไม้เถาชนิดหนึ่ง มีลำเถาที่ใหญ่เล็กแข็งแรงมากและภายในเถานั้นเมื่อเด็ดดูจะมียางสีขาวไหลซึมออกมา
- ใบ : เป็นใบเดี่ยวจะออกใบเรียงกันเป็นคู่ๆไปตามข้อต้นลักษณะของใบเป็นรูปมนรี ปลายใบจะแหลมและเป็นติ่ง โคนใบมนหรือแหลม ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีสีเขียวด้านบนเป็นมัน ขนาดขอใบนั้นกว้างประมาณ 1.5-2.5 นิ้ว ยาว 4-6 นิ้ว มีก้านใบยาว 0.5-1 นิ้ว
- ดอก : ออกเป็นช่ออยู่ตามง่ามใบ ดอกมีอยู่ 5 กลีบโคนดอกนั้นจะเชื่อมติดกันเป็นท่อยาวประมาณ 4 มม. ส่วนกลีบดอกจะยาวกว่าท่ออยู่ 3 เท่าได้ เกสรกลางดอกมี 5 อัน กลีบรองดอกมี 5 กลีบรูปกลมๆ และมีขนตามริมกลีบ
- ผล : เป็นรูปมนรี คล้ายกับลูกมะนาวแต่จะยาวกว่าเล็กน้อย มีเนื้อรสหวานรับประทานได้
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ส่วนที่ใช้ : ต้น ราก ยาง
สรรพคุณ :
- ต้น ใช้เป็นยาแก้พิษ แก้โรคคุดทะราด และตับพิการ
- ราก ในมาเลเซีย นำรากมาต้มกับน้ำทานกาเป็นยารักษาโรคดีซ่านที่เกิดจากโรคมาลาเรีย หรือดื่มแก้เจ็บคอ เจ็บหน้าอก และนำรากมาตำให้ละเอียดใช้ทาแก้โรคตัวเหลืองในทารกด้วย
- ยาง เด็ดเอายางของต้นมาทาแก้โรคคุดทะราด
อ้างอิงจาก พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม